บีทรูท Beetroot สรรพคุณมากมาย กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์

บีทรูท Beetroot

บีทรูท Beetroot เป็นพืชชนิดหนึ่งที่นิยมนำรากซึ่งอยู่ใต้ดินมารับประทาน มีอยู่หลายสายพันธุ์และมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไปตามภูมิภาค นิยมนำมากินสด ดอง ปรุงอาหาร เพิ่มสีสันของอาหาร แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ และนำไปใช้เป็นยารักษาโรค เนื่องจากอุดมไปด้วยสารอาหารที่สำคัญหลายชนิด เช่น ใยอาหาร วิตามินบี9 โฟเลต แมงกานีส โพแทสเซียม ธาตุเหล็ก วิตามินซี เป็นต้น hotspotdesigner

รู้จักกับ บีทรูท
บีทรูท Beetroot เป็นพืชที่นิยมรับประทานส่วนหัว หรือรากสะสม มีสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุมากมาย เช่น คาร์โบไฮเดรต โปรตีน แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส เบต้าแคโรทีน วิตามินเอ วิตามินบี และบีทรูทมีด้วยกันหลายสายพันธุ์ ลักษณะเป็นทรงกลมป้อม ๆ โดยมีเส้นผ่านศูนย์กลางราวๆ 3-4 เซนติเมตร เนื้อภายในจะอวบน้ำ ซึ่งเป็นสีแดงเลือดหมู สีม่วงแดง และสีเหลือง หัวพืชเป็นราก จะสะสมอาหารอยู่ใต้ดิน

ประโยชน์บีทรูท
ทำให้ระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ลดลง

ในบีทรูทมีสารไนตริกออกไซด์ ที่มีคุณสมบัติทำให้หลอดเลือดขยายตัว ส่งผลให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น และยังสามารถลดระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ลงได้

มีการทดลองให้ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ ให้รับประทานบีทรูทเป็นอาหารเสริมอย่างต่อเนื่องจนครบ 30 วัน พบว่า การรับประทานอาหารเสริมจากบีทรูท ทำให้ระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ลดลงประมาณ 72%

ลดความเสี่ยงโรคตับ

บีทรูทมีสรรพคุณบำรุงตับ ส่งเสริมการทำงานของตับให้ดีขึ้น ในบีทรูทยังมีสารบีทานิน ที่ป้องกันการสะสมไขมันในตับ ปกป้องตับจากสารพิษ จากผลการวิจัยยังชี้ให้เห็นว่า การรับประทานบีทรูท จะช่วยลดระดับไขมันของผู้ป่วยโรคไขมันพอกตับได้อีกด้วย

ทำให้ความดันโลหิตเป็นปกติ

ในบีทรูทเต็มไปด้วยสารไนเตรต WBET888 ซึ่งมีสรรพคุณช่วยลดระดับความดันโลหิตได้ โดยได้มีการศึกษาวิจัยจากกลุ่มผู้ทดลอง โดยให้ดื่มน้ำบีทรูทผสมกับน้ำแอปเปิล เป็นเวลา 2 สัปดาห์ พบว่า ระดับความดันโลหิตของกลุ่มผู้ทดลองลดลง 4-5 มิลลิเมตรปรอท

สารไนเตรตที่อยู่ในบีทรูท มีส่วนช่วยส่งเสริมการทำงานของร่างกายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบออกกำลังกาย จากการทดลองพบว่า การดื่มน้ำบีทรูทก่อนออกกำลังกาย จะทำให้สมรรถภาพในการวิ่งเพิ่มขึ้น

เพิ่มสรรถภาพทางเพศ

มีการใช้บีทรูทเพื่อเพิ่มสมรรถภาพทางเพศมาตั้งแต่สมัยโบราณ เนื่องจากบีทรูทเต็มไปด้วยสารไนเตรต ทำให้สารไนตริกเข้าไปสู่ร่างกาย ส่งผลทำให้หลอดเลือดขยายตัว จึงมีเลือดไหลไปเลี้ยงอวัยวะเพศได้มากขึ้น นอกจากนี้ บีทรูทยังมีโบรอนที่ใช้สำหรับการผลิตฮอร์โมนเพศชายอีกด้วย

กระตุ้นสมอง

น้ำบีทรูทมีปริมาณไนเตรตสูง นอกจากจะช่วยเพิ่มความสดชื่นให้ร่างกายได้แล้ว ยังทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมออกซิเจนได้มากขึ้น บีทรูท กินดิบ ช่วยส่งเสริมการทำงานของสมอง ป้องกันสมองเสื่อม และเมื่อสารไนเตรตเปลี่ยนเป็นไนไตรท์ จะกระตุ้นประสาท ทำให้สมองทำงานได้ดีขึ้น

แก้อาการเมื่อยล้า

สารไนเตรตในบีทรูท ทำให้หลอดเลือดขยายตัว ทำให้ออกซิเจนไหลไปเลี้ยงตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ดี ทำให้พลังงานเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังมีธาตุเหล็ก ที่ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นได้

ดูแลสุขภาพผิว

บีทรูทเป็นพืชที่ดีต่อสุขภาพผิว เพราะช่วยลดการอักเสบของผิวหนัง สามารถบรรเทาอาการของสิวอักเสบ สิวอุดตัน ช่วยฟอกเลือด ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส ทำหน้าที่ขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และฟื้นฟูเซลล์ผิวใหม่ อีกทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง จึงสามารถช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยก่อนวัยได้

ป้องกันโรคโลหิตจาง

บีทรูท เต็มไปด้วยธาตุเหล็ก จึงดีต่อระบบเลือด ช่วยป้องกันโรคโลหิตจางได้ดี ซึ่งธาตุเหล็กจะทำหน้าที่ฟื้นฟูเซลล์เม็ดเลือดแดง ทำให้การลำเลียงออกซิเจนไปยังอวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกายดีขึ้น ในบีทรูทยังมีทองแดง ซึ่งจะทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมธาตุเหล็กไปใช้ได้มากยิ่งขึ้น

เพิ่มความแข็งแรงให้กระดูก

เนื่องจากในบีทรูทมีซิลิกา จึงทำให้ร่างกายใช้แคลเซียมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังมีสารอาหารที่ดีต่าง ๆ ได้แก่ วิตามินซี โฟเลต และทองแดง โดยสารอาหารเหล่านี้ ล้วนมีส่วนสำคัญต่อการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงทั้งสิ้น

การใช้บีทรูทเพื่อสุขภาพและความงาม
ล้างสารพิษ
น้ำบีทรูท ช่วยล้างสารพิษในตับได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะบีทรูทมีสารเบทาอีน นอกจากนี้ ยังมีเม็ดสีที่กระตุ้นการทำงานของตับ อีกทั้งน้ำบีทรูทยังมีคุณสมบัติที่ช่วยปกป้องตับจากการขาดโปรตีนที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำอีกด้วย

วิธีทำ นำบีทรูทมาคั้นเอาแต่น้ำสด ๆ จากนั้น นำน้ำบีทรูทที่ได้มาดื่ม อาจเพิ่มรสชาติด้วยการเติมน้ำผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวผสมลงไปด้วยก็ได้ ซึ่งจะได้ทั้งความอร่อยและดีต่อสุขภาพ

วิธีทำ นำหัวบีทรูท 1 หัว มาต้มกับน้ำจนเดือน แล้วนำมาดื่มตอนอุ่น ๆ จะช่วยรักษาสิวอักเสบ สิวหัวหนองให้หมดไป และยังช่วยแก้ปัญหาน้ำเหลืองเสียได้อีกด้วย แนะนำให้ดื่มบ่อย ๆ เป็นประจำ

การรับประทานบีทรูทให้ปลอดภัย
การรับประทานบีทรูทในปริมาณปกติที่พบได้จากในอาหารค่อนข้างมีความปลอดภัย แต่อาจทำให้ปัสสาวะและอุจจาระเป็นสีแดง หรือชมพูหลังจากรับประทาน โดยเป็นอาการที่เรียกว่าบีทูเรีย (Beeturia) ซึ่งจะไม่มีอันตรายใด ๆ ต่อร่างกาย ส่วนข้อควรระวังในบุคคลกลุ่มอื่น มีดังนี้

การรับประทานบีทรูท เพื่อวัตถุประสงค์ในการรักษาโรค ควรมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงด้านสุขภาพ หากต้องการรับประทานควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง
บีทรูทอาจส่งผลให้ระดับแคลเซียมลดต่ำลง และกระทบต่อการทำงานของไต ผู้ป่วยที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับไตหรือระดับแคลเซียมในร่างกาย อาจมีอาการแย่ลงได้
หญิงที่ตั้งครรภ์ หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานบีทรูทในปริมาณมาก หรือการใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการรักษาโรค เพราะยังไม่มีหลักฐานยืนยันความปลอดภัย
ผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำ ไม่ควรดื่มน้ำบีทรูทเป็นประจำ เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงให้ความดันโลหิตลดต่ำลง
บีทรูทมีออกซาเลต (Oxalate) อยู่ในปริมาณมาก ซึ่งเป็นสารธรรมชาติ บีทรูท รสชาติ ที่อาจตกผลึกในปัสสาวะจนกลายเป็นก้อนนิ่ว ผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคนิ่วในไต จึงควรดื่มน้ำบีทรูทด้วยความระมัดระวัง
บีทรูทมีสาร FODMAPs ในรูปของน้ำตาลฟรุกแทน (Fructan) ที่ช่วยให้แบคทีเรียในลำไส้เติบโต ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการท้องเสีย หรือความผิดปกติเกี่ยวกับลำไส้ ในบางรายที่ร่างกายมีการตอบสนองไว เช่น ผู้ป่วยโรคลำไส้แปรปรวน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *