Wrangler ภาพจำของเหล่าไบค์เกอร์ (Biker) หรือนักบิดมอเตอร์ไซค์ของทุกคนเป็นอย่างไร? เราเชื่อว่าภาพที่มีคงไม่แตกต่างกันมากเท่าไหร่ ชายสวมแจ็คเก็ตหนังดำ เสื้อเชิ้ตดำ แว่นตาสีดำ รองเท้าหนังหุ้มข้อ และแน่นอน ‘กางเกงยีนส์’ (ไม่ว่าจะสีดำหรือสีน้ำเงินก็ตาม)
ในบทความนี้เราจะขอเล่าความเป็นมาของวัฒนธรรมการขี่มอเตอร์ไซค์ของเหล่าไบค์เกอร์ และแฟชั่นที่ปรับไปตามบริบทของสังคมพร้อมกับยุคสมัย แต่ไม่ว่าอะไรจะแปรเปลี่ยนนิยามคำว่า ‘เท่’ ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไป วัฒนธรรมที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับคอลเลกชั่นล่าสุดของแบรนด์เดนิมอันดับต้นของโลกอย่าง Wranglers ที่ชื่อว่า “Biker Collection”
แต่ ! สิ่งที่ Hotspotdesigner อยากให้ทุกคนรู้เป็นอย่างแรก คือเหตุผลว่าทำไม Wrangler ถึงต้องมาจับคู่กับไบค์เกอร์ ผ่านคำตอบที่อยู่ในไทม์ไลน์ของแบรนด์เสียก่อน
จริง ๆ แล้วประวัติศาสตร์การเดินทางของ Wrangler ในความเป็น American Jeans เริ่มต้นเมื่อ C.C. Hudson ตัดสินใจทำตามความฝันของตัวเองในยุคสิ่งทอกำลังรุ่งเรือง ปี 1897 ออกจากบ้านเกิดรัฐ Tennessee มุ่งหน้าสู่ North Carolina โดยเริ่มต้นจากเป็นพนักงานเย็บกระดุมที่ได้ค่าแรงเพียงวันละ 25 เซ็นต์ ทำงานจนกระทั่งโรงงานปิดตัวลงในปี 1904 เขาและน้องชาย Homer Hudson ซื้อจักรเย็บผ้าจากที่ทำงานเก่า เอาไปเปิดบริษัทของตัวเองชื่อ Hudson Overall Company พนักงานสองคนทำงานบนห้องใต้หลังคาร้านชำชื่อ Coe Brothers
มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายหลังจากวันแรกของแบรนด์ WBET69 …
ปี 1919 ทั้งคู่เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น The Blue Bell Overall Company เปิดตัวชุดเอี๊ยม Big Ben จนขายดีแบบเทน้ำเทท่า ต่อมาในปี 1943 บริษัทเข้าซื้อกิจการของ Casey Jones Company และเปลี่ยนชื่อเป็น Wrangler ที่เราทุกคนรู้จักนั่นเอง
ปี 1947 Wranglersกลายเป็นแบรนด์ที่รู้จักไปทั่วโลกว่าผลิตผ้าเดนิมได้เจ๋งที่สุด ผ่านการทำเสื้อแจ็คเก็ต กางเกงยีนส์ และเสื้อเชิ้ตที่ดีที่สุดสำหรับเหล่าคาวบอยในวัฒนธรรมการแข่งขัน ‘โรดิโอ (Rodeo)’ และไม่ใช่แค่เหมาะสมในเรื่องของสไตล์ลิ่ง แต่เรื่องของฟังก์ชันซึ่งมาจากนวัตกรรมที่คิดมาอย่างถี่ถ้วน (ตอนยุคคาวบอยก็ทำหมุดบนกางเกงที่จะไม่ทำให้อานม้าเป็นรอย หรือการเย็บตะเข็บที่ทำให้กระเป๋าไม่หลุดออกจากกางเกง) ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้สมกับเป้าหมายซึ่งต้องการเป็นเสื้อผ้าเวิร์คแวร์ที่สามารถใส่ได้แบบ “Everyday Denim Wear”
ถ้าลองดูดี ๆ จะพบว่า Wranglers ทำงานอยู่บนทัศนคติที่ว่าทุกอย่างต้องดีที่สุดเสมอ ทำให้แบรนด์เหมาะสมกับคำว่า Timeless ที่สุด สิ่งนี้เองก็เป็นหัวใจที่ไม่ต่างกันเลยกับ Biker Fashion ที่นอกจากจะไม่ตกยุคสมัยแล้ว ยังกระโดดเข้าไปอยู่ในวัฒนธรรมป๊อปคัลเจอร์จนกลายเป็นไอคอนิกที่ไม่ได้มีแค่ไบค์เกอร์เท่านั้นที่สวมใส่ แต่คนรักแฟชั่นทั้งโลกต่างยกนิ้วโป้งให้กับความเท่นี้ด้วย
ในช่วงปลายของปี 1920 เมื่อการแข่งขันมอเตอร์ไซค์กลายเป็นความบันเทิงรูปแบบใหม่ของชีวิตมนุษย์ ผู้เข้าแข่งขันในยุคบุกเบิกจะเน้นใส่เสื้อ Sweather เข้ารูป ปักชื่อของแบรนด์หรือสโมสรแข่งรถของตัวเองเข้าไป
ข้ามเวลามาในปี 1928 ยุคที่แฟชั่นของไบค์เกอร์เริ่มคุ้นชินกับพวกเรามากขึ้น เพราะมันเป็นครั้งแรกที่เสื้อหนังถูกใส่คู่กับการบิดมอเตอร์ไซค์ เสื้อหนังตัวแรกที่มีขึ้นสำหรับขี่มอเตอร์ไซค์เกิดจากไอเดียของ Irving Schott ช่างทำแจ็คเก็ตจากนิวยอร์ก โดยจะเรียกว่ารุ่น “Perfecto” ที่เขาตั้งตามซิการ์ยี่ห้อโปรดของตัวเอง รูปทรงจะเป็นเสื้อแจ็คเก็ตของนักบินสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 แบบ Flight Jacket หรือ Leather Jacket (หรือจะเรียกว่า Biker Jacket / Bomber Jacket ก็ได้) ใช้ความหนาของแจ็คเก็ตเพื่อปกป้องร่างกายนั่นเอง
ช่วงเวลาของปี 1953 ถือเป็นปีที่คำนิยามของไบค์เกอร์จะ ‘เท่’ ขึ้นไปอีกระดับ แบบที่คนไม่ขี่มอเตอร์ไซค์นยังต้องเห็นด้วย จากภาพยนตร์คลาสสิกเรื่อง “The Wild One” ทุกคนในช่วงเวลานั้นต้องการเป็นตัวละคร Johnny Strabler ที่แสดงโดย Marlon Brando ต้องการสวมแจ็คเก็ตดีไซน์คลาสสิก Schott Perfecto jacket สีดำ / รองเท้า Engineer Boots / และยีนส์สีน้ำเงิน เป็นการถือกำเนิดวัฒนธรรม “Ton-Up” Boys ของกลุ่มมอเตอร์ไซค์ในอังกฤษอีกด้วย
พอเข้าสู่ปี 2000s เป็นต้นมา แฟชั่นของไบค์เกอร์ก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลแล้ว ไม่มีการแบ่งแยกสไตล์กันอีกต่อไป เพราะมีตัวเลือกมากขึ้นจากแบรนด์ที่มีการผลิตไลน์ใหม่ ๆ สำหรับไบค์เกอร์ที่ช่วยให้ดูทันสมัยมากขึ้น
ใส่ความเห็น